ร้อนใน-แผลในปาก

วันที่ : 6/04/2016   จำนวนผู้ชม : 1

เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักแผลที่เรียกว่า"แผลร้อนใน"กันเป็นอย่างดี เจ้าแผลเล็กๆที่ขึ้นตามตำแหน่งต่างๆในปากพร้อมกับความเจ็บปวดที่เหลือรับ
แต่ถ้ามันเป็นแค่เรื่องธรรมดา ผมก็คงไม่ต้องมาเขียนกัน ... เพราะความที่มันไม่ธรรมดาอยู่นี่ล่ะที่ทำให้ต้องเอามาเป็นหัวข้อกัน


แผลในปาก ไม่เท่ากับ แผลร้อนใน
แผลร้อนในหรือAphthous ulcer จัดอยู่ในโรคที่ถือกันว่ายังไม่ทราบสาเหตุ ... หลายคนอาจจะค้านแย้งอยู่ในใจว่าสาเหตุมีตั้งหลายอย่าง หลายอย่างเขียนในหนังสือนิตยสารหรือในอินเตอร์เนท
เราจะมาแยกประเด็นเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
แผลร้อนในที่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ใช้กัน มักเป็นการเรียกแผลที่เกิดขึ้นในปาก โดยไม่คำนึงว่ามันเกิดจากอะไร จะผุดมาเองหรือมีสาเหตุก็เรียกร้อนในหมด
แผลร้อนในตามรากศัพท์เดิม จะตามแพทย์แผนไทยแผนจีน มักจะใช้เรียกแผลที่เกิดในปากโดยที่มันผุดขึ้นมาเอง ถ้ารู้สาเหตุก็เรียกเป็นแผลในปากที่เกิดจากสาเหตุนั้นๆ
แผลร้อนในแบบแพทย์ตะวันตก Aphthae จะเป็นการเรียกกลุ่มโรคที่เกิดแผลในปากที่ไม่ทราบสาเหตุ เกิดแผลขึ้นมาในปากเป็นเวลา7-14วันแล้วค่อยๆหายไป อาจจะเกิดซ้ำได้ในเวลา1-2เดือน มักพบว่ามีประวัติคนในครอบครัวที่มีอาการเดียวกัน
ส่วนแผลในปากแบบอื่นๆ หากพบสาเหตุ เค้าก็จะจับจัดกลุ่มเสีย ไม่เรียกว่าแผลร้อนใน(ก็รู้สาเหตุแล้วนี่นา)
แต่ไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไร จะเรียกว่าแผลในปาก จะเรียกว่าร้อนใน ก็ไม่มีปัญหา เพราะว่าถ้าเป็นแผลร้อนในธรรมดานั้นไม่มีปัญหา เพราะรักษาหรือไม่รักษาก็หายได้ทั้งนั้น ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วถ้ามันไม่ได้เป็นแค่แผลร้อนในล่ะ!
แผลในปากเกิดจากอะไรได้บ้าง
1 แผลร้อนใน : แผลที่เกิดขึ้นมาเอง ลักษณะจำเพาะที่เจอบ่อยคือ เกิดขึ้นเอง มักเกิดขึ้นในช่วงอายุ10-30ปี มีคนในครอบครัวเคยเป็น อาจจะมีอาการไข้ต่ำๆเจ็บคอได้บ้าง แต่ไม่ควรมีอาการอื่นๆนอกเหนือจากนั้นมากนัก

2 แผลจากการบดขยี้เสียดสี :ที่พบได้บ่อยคือการเกิดแผลตามหลังการกัดไปถูกปาก หรือการถูกกระทบกระทกจากภายนอก ... อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงไว้คือการเคี้ยวกลืนอาหารแข็งแห้งเช่นขนมกรุบกรอบที่ทำให้เกิดแผลเล็กที่ไม่รู้สึกในตอนแรกได้ง่าย

3 แผลจากโรคติดเชื้อ : ที่พบบ่อยๆก็คือเรื่องเชื้อไวรัสโดยเฉพาะพวกเริม แต่ก็มีโรคอีกหลายตัวที่ทำให้เกิดแผลในปากได้ เช่นซิฟิลิส มือเท้าปาก เชื้อรา ฯลฯ ซึ่งโรคเหล่านี้ต้องอาศัยประวัติอาการ และอาการที่เกิดร่วมกันในการประเมิน

4 แผลจากโรคกลุ่มภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ : เช่นSLE(โรคแพ้ภูมิตนเอง,โรคพุ่มพวง) Reiter's , Behcet's

5 แผลมะเร็ง : ตรงตัว

6 แผลจากการแพ้หรือระคายเคือง : การแพ้สารบางตัวก่อให้เกิดการอักเสบของผิวปากได้ และการระคายเคืองจากสารต่างๆก็ทำได้เช่นกัน โดยทำให้เนื้อเยื่อเกิดความอ่อนแอลงและเกิดแผลได้ง่าย

7 แผลจากยา : ยาบางชนิดเช่นยาแก้ปวดกลุ่มNSAIDsและยาลดความดันกลุ่มเบต้าบล๊อคเกอร์ทำให้เกิดแผลได้โดยที่ไม่เกี่ยวกับการแพ้


มีแผลร้อนในแล้วทำอย่างไรดี
อย่างที่บอกสาเหตุไว้หลายอย่าง ปัญหาที่เจอก็คือเวลาเป็นแผลในปากขึ้นมาแล้ว ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าตนเองเป็นแผลจากเหตุใด เพราะแผลมันก็คือแผล แต่กระนั้นก็เกิดปัญหาตามมาจนได้
บางคนเป็นแผลแค่วันสองวัน กลัวจะเป็นโน่นเป็นนี่ แสวงหาการรักษาโดยวิธีต่างๆจนแทนที่จะหายกลับกลายเป็นเป็นหนักและนานเสียยิ่งกว่าเดิม
บางคนเป็นแผลสองปีสามปี ยังนิ่งนอนใจ ไม่เกรงกลัวมะเร็งเลย
ผมจึงขอเสนอขั้นตอนง่ายๆเพื่อใช้ในการประเมินแผลในปากของคุณและการแสวงหาการรักษาด้วยตนเอง

- ถ้ามีไข้ตัวร้อน ปวดตามข้อ ผมร่วง รู้สึกไม่สบาย อย่างชัดเจนหรือไม่ ถ้ามีก็ไปพบแพทย์ได้เลยเพราะว่าเจ้าแผลในปากอาจจะเป็นแค่อาการร่วมของโรคก็ได้

- ดูว่ามีการกินอาหารที่กรอบแข็งหรือไม่ แปรงที่ใช้แข็งเกินไปหรือไม่ ถ้ามีก็ให้เปลี่ยนเป็นอาหารอ่อนและแปรงขนอ่อน เพราะอาหารและเครื่องใช้ที่ไม่เหมาะสม นอกจากจะทำให้เกิดแผลยังสามารถทำให้แผลหายช้าได้ด้วย (ดังนั้นควรหยุดกินขนมกรุบกรอบหรือของทอดกรอบๆในระหว่างมีแผล)

- อาหารรสจัด อาหารรสจัดโดยเฉพาะพวกที่เผ็ดๆสามารถทำให้กระพุ้งแก้มหรือริมฝีปากบวมเล็กน้อยเสี่ยงต่อการไปกัดเข้า ... นอกจากนี้การกินอาหารรสจัดๆก็ทำให้แผลหายช้า

- ใช้น้ำยาบ้วนปากเช่นพวกคลอเฮกซิดีน หรือน้ำอุ่นผสมเกลือ(ผสมเล็กน้อย) อาจจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นบ้าง

- ยาป้าย จำพวกสเตียรอยด์(ที่รูจักกันดีเช่นคีนาล๊อค)ก็สามารถใช้ได้หากมีแผลในปากโดยที่ไม่ได้มีอาการอื่นใดเวลาใช้ก็อุดโป๊ะลงไปในรูแผลเลย เพราะนอกจากให้ยาสัมผัสแผลเต็มที่ ยาใหม่ๆก็มักผสมยาชาไปด้วยทำให้เจ็บลดลง

- ยาชา ...แผลร้อนในมันทรมานตรงความเจ็บปวดและกินอาหารไม่สะดวก แม้ว่าจะไม่มียาพวกนี้ขายแพร่หลายทั่วไปในลักษณะยาทาแผลร้อนใน แต่ก็สามารถทดแทนได้ด้วยการหายาชาที่ใช้แก้ปวดฟันที่ขายตามร้านขายยาทั่วไปมาใช้ได้ ครับ

- ถ้ารักษาไปสัก1สัปดาห์ยังไม่ดีขึ้น หรือระหว่างนั้นเกิดอาการผิดสังเกต แผลใหญ่โตขึ้นเร็ว แผลเพิ่มจำนวนมากขึ้น มีไข้ตัวร้อนเจ็บปากเจ็บคอ ก็ไปพบแพทย์ได้เลย

-ใครก็ตามที่มีญาติผู้ใหญ่ที่มีแผลในปากมานานหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่หรือเคี้ยวหมาก ควรพาไปพบแพทย์

- เรื่องสารSLSที่ผสมในยาสีฟันที่บางคนกังวลว่าอาจจะเป็นสาเหตุของร้อนใน ปัจจุบันการทดลองยังไม่ได้ผลที่แน่ชัดครับ ดังนั้นถ้าไม่สบายใจจะเปลี่ยนหรืองดการใช้ยาสีฟันระหว่างรักษาแผลก็ได้



ประเด็นที่ควรบอกแพทย์
หากทำการรักษาด้วยตนเองแล้วไม่หายในช่วง1-2สัปดาห์ ก็น่าจะลองไปพบแพทย์ ... แต่ถ้าไปเฉยๆโดยไม่ได้เตรียมตัว แพทย์อาจจะแนะนำให้กลับไปป้ายยาดูอาการที่บ้านเฉยๆ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเที่ยวก็ควรเตรียมตัวเรื่องการบอกเล่าประวัติต่างๆดังนี้

- อาการร่วม เช่นปวดข้อมาก ผมร่วง มีผื่นตามผิวหนัง ท้องเสีย ซึ่งอาจจะทำให้นึกถึงโรคกลุ่มภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติหรือแพ้ภูมิตนเอง

- เกิดตำแหน่งเดิมหรือไม่ เพราะอาจจะทำให้นึกถึงโรคเริม

- เจ็บแผลหรือไม่ เพราะแผลในปากนั้นควรจะเจ็บ ส่วนแผลที่ไม่เจ็บมักจะต้องระวังโรคที่อันตรายไว้เช่นมะเร็งหรือSLE

- เป็นมานานเพียงใด ให้นับช่วงเวลาตั้งแต่แผลนั้นเริ่มมีขึ้นมาแล้วยังไม่หาย... ไม่นับรวมแผลที่ขึ้นมาแล้วหายไปแล้วมาขึ้นใหม่อีก ทั้งนี้ระมัดระวังการบอกเวลาเกินจริง

- รักษาอะไรมาแล้วบ้าง เพราะถ้าแพทย์รู้ว่าเราระวังรักษาดูแลอย่างถูกต้องมาแล้วระยะนึงไม่หายหรือใช้ยาใดไปแล้วไม่หาย ก็จะได้ประมาณกำหนดวิธีการรักษาได้
จะเห็นได้ว่าแผลร้อนในเล็กๆที่ดูไม่ค่อยมีความสำคัญอะไรก็มีแง่มุมที่น่ารู้หลายอย่าง หวังว่าทุกคนคงนำไปใช้ได้นะครับ

istanbul escort sisli escort umraniye escort mecidiyekoy escort sisli escort tbilisi escort sisli escort sisli escort sisli escort taksim escort taksim escort umraniye escort kartal escort sirinevler escort maltepe escort izmir escort istanbul escort istanbul escort umraniye escort kadikoy escort vip escort mersin escort istanbul escorts atakoy escort avcilar escort beylikduzu escort okmeydani escort besiktas escort sisli escort maslak escort tuzla escort sex shop isitme cihazi sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop

deneme bonusu deneme bonusu veren siteler deneme bonusu veren siteler deneme bonusu